วันนี้ได้เห็นโพสต์จากนิตยสารในดวงใจของดิฉัน นั่นคือ Secret ซึ่งดิฉันเองเป็นแฟนนิตยสารนี้มานานค่ะ เนื้อหาสาระดีและประกอบด้วยนักเขียนที่ดีหลายๆ ท่านมากมาย ว่าแต่เรามาดูโพสต์ที่ว่ากันดีกว่าว่าคืออะไร
และนี่ก็คือวลีเด็ดจากอดีตประธานาธิบดี อับลาฮัม ลินคอนน์ นั่นเองค่ะ
หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกับวลีนี้มาบ้าง แต่บางท่านก็ยังไม่เคยได้ยิน วันนี้ Women’s Ways จะมาชวนคุยเรื่องการลับคมขวานกันค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก Secret Magazine online และ manager.co.th ค่ะ
จากวลีที่ว่า “หากข้าพเจ้ามีเวลา 6 ชั่วโมงในการตัดต้นไม้ ข้าพเจ้าจะใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการลับขวาน”
หมายความว่า “การลับคมขวานนั้น สำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับงานตัดไม้ ถ้าขวานคม ประสิทธิภาพในการตัดไม้จะยิ่งดีและรวดเร็ว แต่ถ้าตะบี้ตะบันตัดจนไม่ดูว่าสภาพขวานนั้นเริ่มทู่ ไม้ที่ตัดจากขวานที่ไม่ได้ลับคมอาจได้ผลน้อยกว่าไม้ที่ตัดได้จากขวานที่คมกริบเพราะถูกลับมาอย่างดี เปรียบเหมือนการทำงาน ถ้าทำงานจนหามรุ่งหามค่ำเป็นกรรมกร แต่งานยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรนั้น ควรหาเวลาไปลับคม ลับสมอง ฝึกปรือ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นนั่นเอง”
ฟังอย่างนี้แล้ว บางท่านเริ่มหันกลับมามองตัวเองใช่ไหมคะว่า เอ..ตัวเรานี่ทำงานหนักเยี่ยงกรรมกร แต่งานก็ยังไม่เคยเสร็จตามเป้าเสียที และเริ่มคิดที่จะมองหาวิธี หรือสถานที่ซักแห่งเพื่อลับคมอาวุธของตัวเองบ้างแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นเรามาลับคมกันหน่อยดีกว่าค่ะ
“การลับคม” ทำได้อย่างไรบ้าง
– หาเวลาศึกษาเพิ่มเติมในส่วนงาน หน้าที่ ความรับผิดชอบของคุณและลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น การสัมมนา อบรม เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การเป็นอาสาสมัคร การปฎิบัติธรรม ข้อมูลการอบรม สัมมนา หรือกิจกรรมนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถาบันต่างๆ ของรัฐ หรือเอกชน เช่น มหาวิทยาลัย สถาบันธรรมนิติ หรือแม้แต่ในนิตยสารอย่าง Secret ก็ดีในนั้นจะมีหน้าหนึ่งแจ้งข่าวเกี่ยวกับการอบรม สัมมนา ต่างๆ ลองหาข้อมูลได้เลยค่ะ
– เข้าร้านหนังสือ และหาหนังสือดีๆ ที่มีคุณค่าต่อ IQ และ EQ ของคุณ
– ฝึกการฟังให้มากขึ้น การฟังมีความสำคัญมากในการทำงานค่ะ และไม่เพียงมีความสำคัญในการทำงานยังมีความสำคัญในการอยู่ร่วมกันอีกด้วย ซึ่งการฟังนั้นต้องเป็นการฟังด้วยใจ ด้วยความเข้าใจ แค่เข้าใจนะคะ ไม่ต้องไปหาวิธีเปลี่ยนหรือแก้ไขอะไรจากข้อมูลที่ได้รับฟัง ฟังแล้วพิจารณาทำความเข้าใจ สื่อที่จะทำให้คุณเป็นผู้ฟังที่ดีนั้นมีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่เค้ากำลังทุกข์ใจ ดีใจ เสียใจ การรับฟังให้ฟังอย่างละเอียด ทุกถ้อยทุกคำ ถ้าเค้าต้องการคำแนะนำหรือปรึกษาค่อยพูด แต่ถ้าไม่ต้องการไม่ต้องพูด และอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆ นั่นคือการฟังธรรมะ เพราะทำให้ใจสงบมากขึ้น แถมยังเกิดปัญญาเพื่อนำมาแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้อีกด้วยค่ะ
– ข้อสุดท้าย คือการสอนการบ้านลูก หลาน หรือเด็กๆ ฟังดูแปลกๆ ใช่ไหมคะ แต่เชื่อเหอะดีจริง การที่เราได้เป็นคนสอนนั้น เหมือนเราเป็นคนเรียนไปด้วย ฝึกเรื่องความใจเย็น ความเมตตา ทบทวนสิ่งที่เราได้เคยเรียนรู้มาแล้วลืมไป เหล่านี้ทำให้เราได้เข้าใจเพื่อนร่วมงานและลูกน้องมากขึ้นค่ะ
“หยุดพักเพื่อลัมคมอาวุธของคุณ เพื่อโอกาสในการเดินหน้าที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ”